"ชอบมากเลยครับ ผมใช้ตอนสมัยเรียน แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าถุงมือคู่เก่า ที่ผมไม่คิดว่ามันจะมีวันกลับมาเหนียวแล้ว กลับมาเหนียว แถมโฟมยังนุ่มเหมือนใหม่ และราคาขวดละไม่กี่ร้อยเท่านั้นเองครับ" นิรนาม ยูท่าห์
"ผมมักถูกบ่นโดยเพื่อนร่วมทีมและโค้ชว่ามือเหม็น ผมจึงตัดสินใจซื้อน้ำยานี้มาใช้ ปรากฏว่านอกจากน้ำยาถุงมือจะกำจัดกลิ่นและคราบสกปรกออกจากถุงมือแล้ว มันยังให้ความเหนียวกับถุงมือรอยช์ตัวท้อปของผมไปอีกเต็มๆถึง 5 เดือน ถือว่ารอยช์ได้ใจผมไปเลย แน่นอนล่ะว่าผมจะซื้ออีกและแนะนำให้เพื่อนประตูทุกคนที่จริงจังกับเรื่องความสะอาดและกลิ่นควรมีไว้ใช้"โจส วอชิงตัน
"ถ้าคุณมีลูกเป็นประตู คุณควรหาไว้สักขวดสองขวด นอกจากจะทำความสะอาดแล้ว ความเหนียวและกลิ่นก็ดีขึ้น ถุงมือกลับมาเป็นเหมือนใหม่"เควิน อริโซน่า
ความหลัง
หลังจากที่ฝึกซ้อมและลงแข่งไประยะนึง ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ีจะมีถุงมือสำหรับแข่งขันดีๆสักคู่ ผมจึงตัดสินใจซื้อถุงมือที่ชอบมารุ่นหนึ่ง การลงทุนซื้อถุงมือผู้รักษาประตูนั้น ตามมาด้วยการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ เกิดการล้างและัซักถุงมือขึ้นเป็นครั้งแรก ผมนำแชมพูมาล้างคราบที่เปื้อนออก จนถุงมือขาวสะอาด เอาถุงมือไปสวมบนขวดน้ำ น้ำถุงมือไปวางไว้ผึ่งลมและแดดยามเช้า เอาพัดลมเป่าช่วยหน่อย พอตกบ่ายๆ ถุงมือก็แห้งดี พร้อมเก็บไว้ใช้ในอาทิตย์ต่อไป ผมใช้ถุงมือคู่นี้อยู่ราวๆ 6 เดือน มันก็เริ่มเหลือง แข็ง และไม่เหนียว ทั้งที่โฟมก็ถลอกไปไม่มาก ผมรู้สึกผิดหวังกับการลงทุนในครั้งนี้พอสมควร ทำไมถุงมือถึงเลิกเหนียวไปดื้อๆ สุดท้ายผมจึงจำใจต้องทิ้งมันไป
ปัจจุบัน
มานั่งนึกดูสิ่งที่ผมทำในสมัยก่อนนั้นผิดแทบทั้งหมด น้ำสบู่ น้ำยาล้างจาน แชมพู ต่างก็ล้วนทำให้โฟมแห้ง เสียความนุ่ม และความเหนียวไป ไม่ว่าจะเจือจางอย่างไร มาถึงตอนนี้ผมจึงใช้เพียงน้ำอุ่นล้างถุงมืออย่างเดียว การตากก็ตากกลางคืน โอกาสเจอแดดโดยตรงแทบเป็นศูนย์ ไม่มีการเป่าพัดลม ให้โฟมแห้งเร็วอีกต่อไป ผมต้องใช้เวลากว่า 2 วันกว่าถุงมือถึงจะแห้งเองที่อุณหภูมิห้อง แม้จะใช้เวลามากไปบ้าง แต่ผมมักจะมีถุงมือสำรองหนึ่งคู่เพื่อแก้ปัญหานี้ การเก็บก็เก็บในที่มืดสนิท แห้งและเย็น ผมเก็บถุงมือไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าครับ (ผมมีตู้เย็นนะครับ แต่ผมเอาไว้แช่ของกินครับ)
น้ำยาล้างถุงมือโดยเฉพาะนั้นน่าสนใจตรงที่สามารถทำความสะอาดถุงมือได้โดยที่ไม่ทำให้ถุงมือแห้ง หรือเสียความเหนียวไป ผมเคยใช้น้ำยาล้างถุงมือของอูลสปอร์ต ซึ่งทำให้โฟมดูนุ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้ถุงมือดูสะอาดขึ้นนัก จึงกลับมาใช้น้ำอุ่นต่อไป เพราะประหยัดตังค์กว่า
ที่มา
พอดีไปอ่านเจอรีวิวน้ำยาล้างถุงมือของรอยช์ ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ยระดับ 5/5 ดาว จากผู้รีวิว 80 คน อ่านไม่ผิดหรอกครับ เฉลี่ย 5 ดาว จาก 80 คน (ด้วยความที่รอยช์ผลิตถุงมือเป็นเจ้าแรกๆ และน้ำยาก็เป็นรอยช์เจ้าแรกอีักเช่นกัน) ผมจึงอยากทดสอบมากๆว่าดีจริงอย่างที่เขาว่าหรือไม่
มาสบโอกาสตอนผมไปเตะบอลแล้วเจอเพื่อนที่ผมขายถุงมือ Uhlsport Cerberrus Absolutgrip R สีขาวล้วน ที่ผมเองใช้ประมาณ 1 เดือน(ทดสอบแล้วอยากเปลี่ยน) ก็ขายเป็นมือสองให้เพื่อนที่เล่นหญ้าเทียม เพื่อนผมเตะหญ้าเทียมทุกสัปดาห์ เป็นเวลา 6 เดือน เจอกันล่าสุดผมยืมถุงมือคู่นี้มาลองใส่ มันดำจนลื่นรับอะไรไม่อยู่ (วิ่งไปรับบอลคิดว่าได้แน่ๆบอลหลุดมือลอดขาเข้าซะงั้น) แต่ผมยังสัมผัสได้ว่ามันยังมีความนุ่มอยู่บ้าง ผมจึงเกิดไอเดียและตัดสินใจขอซื้อคืนกลับมาเพื่อทำการทดสอบน้ำยาล้างถุงมือระดับ 5 ดาวในครั้งนี้นั่นเองครับ
วิธีการ
-ผู้เข้าทดสอบ Uhlpsport Absolutgrip R ความเหนียว 3/3 นุ่ม 2/3 ทน 3/3 ระดับตัวท้อปนิ้วกลม ความรู้สึกที่ใช้ตอนแรก เหนียวหน่อยๆ ไม่ค่อยนุ่ม ทนมากชนิดที่ไถมือไปกับพื้นถนนได้สบาย ความรู้สึกหลังจากที่ซื้อมา ดำ ด้าน ไม่เหนียว แต่ยังนุ่มอยู่ ไม่เคยซักเลยเป็นเวลา 6 เดือน
-น้ำยาล้างถุงมือรอยช์ อ่อนโยนต่อถุงมือ กลิ่นหอมน่ากิน (ห้ามสูดดมนะครับ) ความจุ 200 มิลลิลิตร หัวกดสร้างโฟม
-น้ำอุ่น 50 องศาเซลเซียส จากเครื่องทำน้ำอุ่น ใช้อุณหภูมินี้ตลอดการทดสอบ
วิธีการล้างตามคลิปครับ โดยล้างมือขวาด้วยน้ำอุ่นอย่างเดียว และล้างมืิอซ้ายด้วยวิธีเดียวกัน แต่มีช่วงที่ถูด้วยน้ำยาล้างถุงมือครับ
รายงานผล
มือขวา น้ำอุ่นอย่างเดียว
เมื่อเปรียบเทียบแล้วล้างด้วยน้ำอุ่นอย่างเดียวก็ดูสะอาดขึ้นมาก กลับมาเหนียวขึ้นอย่างที่เห็นครับ
มือซ้าย น้ำอุ่น น้ำยา 1 รอบ ใช้หมด ไป 6 มิลลิลิตรครับ บีบ หน้ามือ 2 ที หลังมือ 1 ทีครับ
ล้างเพิ่มด้วยน้ำยาก็ดูสะอาดเพิ่มขึ้นครับ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
มาดูเปรียบเทียบสองข้างครับ
หลังมือสะอาดพอๆกันครับ ส่วนหน้ามือนั้น ล้างด้วยน้ำยาล้างถุงมือสีจะดูเทาน้อยกว่าชัดเจน
สรุปเลยนะครับ
ความสะอาด น้ำยาล้างถุงมือชนะ สะอาดกว่าชัดเจนครับ
ความหอม น้ำยาล้างถุงมือชนะ หอมกว่า ชัดเจน
ความเหนียว ผมให้เสมอนะครับ โฟมกลับมาเหนียว แต่ไม่ได้มากกว่าน้ำอุ่นอย่างเดียว อาจเป็นเพราะทดสอบบนโฟมท้อปของอูลสปอร์ต(ซึ่งเหนีัยวนานอยู่แล้ว) จึงไม่เห็นความแตกต่าง
ราคา น้ำอุ่นชนะ น้ำยาล้างถุงมือใช้ ครั้งละ 12 มิลลิลิตร ตกคราวละ 30 กว่าบาท ส่วนน้ำอุ่นไม่ได้เสียเงินครับ ถ้าใช้น้ำยาขวดนึงก็ล้างได้ราวๆ 20 ครั้งครับ ใช้การชั่งขวดน้ำยาเพื่อดูมิลลิลิตรที่หายไปหลังการใช้ 1 ครั้งครับ
ความนุ่ม น้ำยาล้างถุงมือชนะ ข้อนี้เป็นความแตกต่างที่มองไม่เห็นด้วยตาครับ ผิวเผินเหมือนทั้งสองข้างจะไม่แตกต่างกันหนัก แต่ข้างที่ใช้น้ำยานั้นเมื่อสัมผ้ส ถุงมือนุ่มมากขึ้น มากกว่าตอนซื้อมาแรกๆอีกครับ และยังหนืดอีกด้วย น่าจะเป็นเพราะน้ำยาล้างเศษฝุ่้นได้ดีกว่า ซึ่งเมื่อเนื้อถุงมือหนืดก็ทำให้รับบอลได้อยู่มือมากขึ้น ส่วนข้างที่ล้างน้ำอุ่นอย่างเดียวยังมีืสัมผัสลื่นอยู่และไม่ได้นุ่มมากขึ้น ในข้อนี้เป็นสิ่งที่ผมประทับใจน้ำยาล้างถุงมือที่สุดครับ
ความทนทาน ไม่ได้ทนทานมากกว่ากันชัดเจน ทดสอบด้วยการไถมือกับถนนครับ
ผลการทดสอบ น้ำยาล้างถุงมือชนะน้ำอุ่นไปด้วยคะแนน 3-1
หลังจากที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า น้ำยานี้ทำให้ถุงมือนุ่มขึ้นแน่ๆ ผมคงต้องมีติดไว้สักขวด และำรู้สึกผิดเหลือเกินที่ไม่ได้นำของดีๆอย่างนี้มาแนะนำให้ทุกท่านตั้งแต่แรก หากท่านอยากรู้ความจริงว่ามันทำให้ถุงมือเหนียวจนเนื้อโฟมหลุดจนชิ้นสุดท้ายหรือไม่ ก็ต้องลองใช้ดูเองครับ
Welcome back home son ถึงจะไม่ขาวเหมือนใหม่อย่างในรูป แต่ก็เหนียวเหมือนเคย ทั้งยังหอมและนุ่มกว่าเมื่อครั้งแรกเจอ ผมรู้สึกเหมือนได้ถุงมือใหม่แกะห่อ ขอบคุณผลิตภัณฑ์ดีๆจากรอยช์ด้วยใจจริงครับ |
น้ำยาขวดหนึงประมาณ กี่ร้อยครับ
ตอบลบ